วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

วิเคราะห์ความเป็นอื่นของตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ “นางมณโฑ”


วิเคราะห์ความเป็นอื่นของตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์
“นางมณโฑ”

ประวัติของตัวละคร “นางมณโฑ”
          นางมณโฑคือใคร?
ในหนังสือเรื่องรามเกียรติ์ของเราและในหนังสือเรื่องบ่อเกิดของรามเกียรติ์กล่าวถึงประวัติของนางมณโฑไว้ว่า พระฤษีสี่ตนบำเพ็ญพรตที่เขาหิมพานต์เป็นเวลาสามหมื่นปี โคนมห้าร้อยตัวอยู่ในป่า มีใจเลื่อมใสในพระฤษี จึงพากันมาหยดน้ำนมลงไว้ในอ่างทุกเช้า ถึงเวลาพระฤษีฉันแล้วก็ให้ทานนางกบตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ข้างอ่างนั้นบ้าง วันหนึ่งนางนาคซึ่งเป็นธิดาของพระยากาลนาค ขึ้นมาสมจรกับงูดิน พระฤษีทั้งสี่พบเข้าเห็นเป็นเสียเกียรติ์ยศนาคจึงเอาไม้เท้าเคาะให้รู้ตัว ครั้งแรกก็เคาะตรงขนดหางแต่นางนาคหารู้สึกตัวไม่ ฤษีจึงเคาะอีกที คราวนี้ เคาะกรงกลางตัวทีเดียว นางนาคก็ตกใจมองไปเห็นฤษีก็นึกละอาย ก็ชำแรกแผ่นดินหนีไปเมืองบาดาลแต่ก็เอาความอาฆาตไปด้วย จึงคิดจะฆ่าฤษี จึงแอบไปที่อาศรมคายพิษลงในอ่างนํ้านม ฝ่ายนางกบเห็นเช่นนั้นก็กลัวว่าพระฤษีจะมรณะ จึงโดดลงไปตายด้วยพิษนาคในอ่างนั้น ถึงเวลาฉัน พระฤษีเห็นกบตายก็ไม่กล้าฉันนม จึงช่วยกันชุบให้กบคืนชีพ แล้วถามถึงเหตุที่นางกบลงไปตายในอ่างน้ำนม เมื่อทราบเรื่องราวก็มีความกรุณาเลยชุบนางกบให้เป็นหญิงมนุษย์ให้ชื่อว่านางมณโฑ ตามชาติเดิมที่มาจากกบ เพราะกบนั้นในภาบาลีเรียกว่า “มณฑก”
นางมณโฑนั้นสวยงามอย่างไร ขนาดไหน เราลองฟังคำกลอนตอนนี้ดูก็ได้แล้วเลิกร้องเพลงนางมณโฑนมโตข้างเดียวเสียที คำกลอนมีว่า
“งามพักตรยิ่งชั้นมหาราช           งามวิลาสล้ำนางในดึงสา
งามเนตรยิ่งเนตรในยามา           งามนาสิกล้ำในดุษฎี
งามโอษฐงามกรรณงามปราง        ยิ่งนางในนิมาราสี
งามเกศยิ่งเกศกัลยาณี               อันมีในชั้นนิรมิต
ทั้งหกห้องฟ้าไม่หาได้                ด้วยทรงลักษณ์วิไลไพจิตร
ใครเห็นเป็นที่เพ่งพิศ                 ทั้งไตรภพจบทิศไม่เทียมทัน”
เมื่อชุบนางมณโฑขึ้นมาแล้ว พระฤษีทั้งสีก็เดือดร้อนอีก เดือดร้อนในเรื่องที่อยู่ของนางมณโฑนั่นเองตอนเป็นกบอยู่ก็นอนข้างอ่างน้ำนมได้ไม่มีใครว่า แต่ตอนเป็นหญิงสาวและสวยด้วยจะมาอยู่ไนอาศรมกับพระฤษีก็ดูกระไรอยู่ ฤษีก็กลัวคนนินทาเหมือนกัน จึงนำนางมณโฑไปถวายพระอิศวรไว้ พระอิศวรก็มอบนางมณโฑให้พระอุมาไว้ทรงใช้สอย นางมณโฑเป็นสาวชาววังและก็เป็นชาววังในสวรรค์ไม่ใช่วังธรรมดาบนพื้นดินเรียกว่าเป็นสาวสวรรค์ทีเดียว
ที่อยู่ของพระอิศวรนั้น ว่าอยู่บนเขาไกรลาส วันหนึ่งวิรุฬหกขึ้นไปเฝ้าพระอิศวร ขณะนั้นพระอิศวรกำลังบรรทมอยู่ วิรุฬหกเข้าใจว่าพระอิศวรกำลังเสด็จออกที่หน้ามุขพอขึ้นอัฒจันทร์ วิรุฬหกก็หมอบกราบและก็กราบทุกชั้นบรรได ขณะนั้นมีตุ๊กแกตัวหนึ่งเห็นวิรุพหกขุนมารกราบบรรได ก็ร้องตุ๊กแกเป็นเชิงเยาะเย้ย วิรุฬหกเหลือบไปเห็นตุ๊กแกก็เกิด โทสะ ถอดสังวาลย์ขว้างไปถูกตุ๊กแกเคราะห์ร้ายถึงตาย ขณะเดียวกันเพราะความแรงของสังวาลย์ที่ขว้างไปเป็นเหตุให้เขาพระสุเมรุเอนไปด้วย ก็เขาพระสุเมรนั้นพระอิศวรเป็นเจ้าสถิตย์อยู่ พอเขาพระสุเมรเอนเอียงก็เดือดร้อนต้องประกาศหาผู้สมัครยกเขาให้ตรง ทำไมพระอิศวร ซึ่งสามารถบันดาลทุกสิ่งได้ จึงไม่ทรงทำให้เขาตรงเสียเองก็ไม่ทราบ คราวนั้นทศกัณฑ์อาสายกเขาให้ตรงได้มีความชอบ พระอิศวรจึงประทานพรว่าจะขออะไรก็ได้ ทศกัณฑ์ได้ทีก็ทูลขอพระอุมาชายาพระอิศวรๆ ก็ไม่ขัดแต่พอทศกัณฑ์จะอุ้มพระอุมาก็ร้อนเหมือนไฟ จึงต้องทูน พระอุพาไป จนสุดท้ายพระอิศวรออกอุบายจนทศกัณฑ์ต้องนำพระอุมาคืนและขอเปลี่ยนกับนางมณโฑเทวี พระอิศวรก็ทรงอนุญาตประทานนางมณโฑให้ ตอนทศกัณฑ์พานางมณโฑเหาะ จะไปกรุงลงกา แต่ทางอากาศที่ทศกัณฑ์ผ่านไปนั้นบังเอิญผ่านนครขีดขินของพาลี ฝ่ายพาลี เห็นทศกัณฑ์อุ้มสตรีเหาะข้ามเมืองตนก็โกรธ จึงคว้าอาวุธได้เหาะขึ้นไปรบกับทศกัณฐ์แล้วชิงเอานางมณโฑไปได้ นางมณโฑตกเป็นเมียของพาลีเป็นคนแรก พอตั้งท้อง อาจารย์ของพาลีไปว่ากล่าวให้คืนนางมณโฑแก่ทศกัณฐ์เสีย พาลีก็ยอมคืนแต่ขอเอาลูกไว้ ตอนนั้นลูกก็ยังไม่ครบกำหนดคลอดจึงต้องผ่าเอาลูกใส่ท้องแพะไว้ก่อน ลูกของทางมณโฑซึ่งเกิดจากทศกัณฐ์นี้คือองคต ซึ่งเป็นราชทูตถือสารของพระรามไปให้ทศกัณฐ์นั้นเอง นางมณโฑมีบุตรกับทศกัณฐ์อีก ๓ คน คืออินทรชิต นางสีดา และไพนาสุริยวงศ์
เมื่อเสร็จศึกลงกาแล้ว พระรามอภิเษกให้พิเภก ซึ่งมีความชอบในราชการเป็นพระเจ้ากรุงลงกาแทนทศกัณฐ์พี่ชาย ให้นางตรีชฎาเป็นมเหสีฝ่ายขวา นางมณโฑเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย
ลักษณะของนางมณโฑ
นางมณโฑนั้น จะว่ามีบุญวาสนาก็นับว่ามีบุญวาสนาอยู่เพราะได้รับความเมตตาจากฤษีชุบจากกบมาเป็นสาวสวยและไปอยู่ในสวรรค์ กลายเป็นสาวสวรรค์ แต่จะว่ามีกรรมก็มีกรรม หรือตามความเห็นของคนบางคนก็ว่ามีบุญก็ได้ เพราะมีสามีถึง ๔ แต่ตอนบั้นปลายรู้สึกจะตกอับนิดหน่อย คือตกจากฝ่ายขวาเป็นเอกอัครมเหสี มาเป็นฝ่ายซ้ายคือเป็นรอง 
ลักษณะของนางมณโฑคือ สีขาว ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎนาง และมีสวามี โอรส และธิดา นางมณโฑเทวีเป็นมเหสีองค์ที่ ๑ ของท้าวทศกัณฐ์ มีบุตร ๓ คือ อินทรชิต ยุพราชกรุงลงกา นางสีดา มเหสีของพระราม และทศพิน(ไพนาสุริยวงศ์กษัตริย์กรุงลงกาองค์ที่ ๕
นอกจากนี้จากการที่นางมณโฑเคยถูกพาลีชิงไปจากทศกัณฐ์ ทำให้นางมีโอรสกับพาลีอีก ๑ คน คือองคต
สามีของนางมณโฑ
สามีของนางมณโฑนี้บางตำราก็กล่าวว่ามี ๖ ตน แต่บางตำราก็กล่าวไว้ว่ามี ๔ ตน แต่ ณ ที่นี้จะขอนำเสนอสามีของนางมณโฑที่ปรากฎอย่างแน่ชัดเพียง ๔ ตน ดังนี้
๑.      ทศกัณฑ์ เมื่อทศกัณฑ์ได้ความดีความชอบจากการช่วยทำให้เขาไกรลาสกลับมาตั้งตรงอีกครั้งจึง
ได้ทูลขอพระแม่อุมาเป็นบำเหน็จในความดีความชอบครั้งนี้ แต่ความ “ทะลึ่ง” ของทศกัณฑ์ก็ได้ทำให้ตัวเขาและเหล่าเทพเจ้าเทวดาทั้งหลายเดือดร้อนไปตามๆ กัน จนกระทั่งพระนารายณ์ต้องออกอุบายให้ทศกัณฑ์นำพระแม่อุมาไปคืนและเปลี่ยนเป็นสาวงามคนอื่นแทน สุดท้ายก็ได้นางมณโฑมาแทนพระแม่อุมา…
๒.      พาลี ระหว่างที่ทศกัณฑ์อุ้มนางมณโฑกลับกรุงลงกา พาลีซึ่งเป็นลิงที่ครองเมืองขีดขินเห็นทศกัณฑ์
อุ้มนางมณโฑเหาะข้ามเมืองของตนก็เกิดความไม่พอใจและตรงเข้าทำร้ายทศกัณฑ์ พาลีได้พรศักดิ์สิทธิ์ว่าหากสู้รบกับผู้ใดก็ให้พละกำลังของคู่ต่อสู้มาเป็นกำลังของตนเอง หลังจากสู้รบชัยชนะก็ตกเป็นของพาลี เมื่อนั้นเองพาลีก็เกิดพึงพอใจในความงามของนางมณโฑจึงได้ชิงนางมณโฑไว้เป็นเมียของตน ณ เมืองขีดขิน
๓.      หนุมาน ในการรบกับพระรามนั้น ในช่วงท้ายๆ ทศกัณฑ์เป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำทำท่าจะแพ้อยู่
หลายหน นางมณโฑเองก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยผัวรบด้วยเช่นกัน ดังในตอนที่นางมณโฑพยายามจะตั้งพิธีหุงน้ำทิพย์ที่ตนได้เรียนมาจากพระแม่อุมาเพื่อช่วยผัวในการรบ แต่ในพิธีหุงน้ำทิพย์นี้มีข้อแม้ที่สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าจะต้องงดเว้นการร่วมรักกัน นางมณโฑจึงขอให้ทศกัณฑ์อดทนรอจนพิธีเสร็จฝ่ายพระรามเมื่อรู้ว่านางมณโฑกำลังตั้งพิธีหุงน้ำทิพย์ หนุมานทหารเอกของพระรามก็ได้คิดอุบายเพื่อทำลายพิธีนี้เสียด้วยการปลอมตัวเป็นทศกัณฑ์หลอกนางมณโฑว่าชนะศึกพระรามแล้วกลับมาร่วมรักกับนางมณโฑ ผลก็คือพิธีหุงน้ำทิพย์ถูกทำลายเพราะละเมิดเงื่อนไขที่ว่าด้วยการร่วมรัก
๔.      พิเพก หลังทศกัณฐ์ถูกฆ่า พระรามยกกรุงลงกาให้พิเภกก็ยกนางมณโฑโสภาให้เป็นเมียพิเภก
ตามลำดับไหล่ พิเภกเป็นอันดับที่สี่

ความเป็นอื่นของตัวละคร “นางมณโฑ”
นางมณโฑผู้ไม่เคยมีสิทธิ์เรียกร้อง
ชีวิตของนางมณโฑนั้นอยู่ในสภาวะที่เลือกอะไรไม่ได้สักอย่าง จะมีผัวก็เลือกไม่ได้ มีผัว ๔ คน ตายไป ๒ และผัวทั้งหมดนั้นก็ต้องเป็นเมียเขาอย่างจำยอม ราวกับถูกข่มขืนก็ไม่ปาน… มีลูก ลูกก็ต้องตายเพราะความหน้ามืดของพ่อ หรือไม่ลูกก็เป็นภัยกับตัวพ่อจนถึงแก่ชีวิต ตอนจบยังต้องตกเป็นของน้องผัวอย่างพิเภก
นางมณโฑสะท้อนสังคม
๑.      ในสมัยโบราณเมื่อไม่นานมานี้ (ร.๔) มีผู้เอาความที่นางมณโฑมีผัวหลายคนมาเสียดสีผู้หญิงที่ชอบ
เปลี่ยนผัวว่า “นางมณโฑโสภาหกสามี สองกระบี่สี่ยักษ์รักระดม” (เพลงยาวกรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์)สมัยนี้ถือเป็นการเหยียดเพศหญิง...ทั้งที่ความจริงหญิงนั้นเป็นฝ่ายถูกกระทำย่ำยีข้างเดียว
๒.      เรื่องราวของรามเกียรติ์ ในบทของนางมณโฑเป็นเรื่องราวที่สะท้อนสังคมในบทบาทของสิทธิสตรี
เป็นอย่างมาก
                   ๒.๑ ในเรื่องรามเกียรติ์ได้ทำให้ตัวละครนางมณโฑเป็นตัวละครที่ไม่ดีโดยการให้นางมณโฑทีสามีถึง ๔ ตน ซึ่งเป็นลักษณะของสตรีที่ไม่ดีในยุคนั้น
                   ๒.๒ แม้ว่านางมณโฑจะมีพื้นเพเป็นชนพื้นเมือง แต่นางก็เข้ามาอยู่ในสังคมเจ้า ต้องสละลูกของตนเองให้อยู่ในการครอบครองของสามีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ลูกที่เกิดจากนางจึงไม่ได้เป็นสมบัตินาง หากแต่ตกเป็นสมบัติของผู้ชายทั้งพาลีและทศกัณฐ์  ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความจำเป็นว่าลูกของนางจะเกิดออกมาจากท้องแพะหรือท้องนางเอง  อีกทั้งการทำคลอดและการตั้งครรภ์ อันเป็นปริมณฑลเฉพาะของผู้หญิงและหวงห้ามสำหรับผู้ชายอีกทั้งยังเป็นองค์ความรู้ของผู้หญิงที่ถ่ายทอดกันในกลุ่มผู้หญิง การที่ฤๅษีกับทศกัณฐ์ พยายามเอาลูกในครรภ์นางใส่ไว้ในท้องแพะจึงเป็นการแสดงอำนาจเพศชายผ่านทางรัฐและสถาบันศาสนาเพื่อที่จะเข้ามารุกล้ำพื้นที่เฉพาะของผู้หญิงที่ผู้หญิงสามารถสร้างอำนาจได้ด้วยตนเอง เป็นการช่วงชิงอำนาจของผู้ชายไปจากผู้หญิงโดยผู้ชายชนชั้นปกครองและชนชั้นนักบวชแต่อย่างไรก็ตามนางมณโฑเองก็ยังมีบทบาทในด้านพิธีกรรมทางศาสนาเช่นกันซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เฉพาะของนางที่ผู้ชายไม่สามารถเข้ามารุกล้ำได้ คือ นางสามารถประกอบพิธีหุงน้ำทิพย์ ที่ปลุกชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ (ขณะที่สีดาแทบจะไม่ทำอะไรนอกจากรอสวามีมารับกลับวัง) ซึ่งแตกต่างจากความเชื่อของอารยันในคัมภีร์พระเวทที่ผู้หญิงไม่สามารถประกอบพิธีกรรมใดได้หากปราศจากผู้ชาย หนำซ้ำการที่มีผู้ชายเข้ามาใกล้นางมณโฑระหว่างทำพิธีเป็นการก่อกวนในการประกอบพิธีกรรม ถือได้ว่าเป็นพื้นที่การสร้างอำนาจของผู้หญิงจริงๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ทหารลิงของรามทำลายพิธีหุงน้ำทิพย์ของนางได้สำเร็จและปราบไพร่พลยักษ์ตายเป็นจำนวนมาก
                   ๒.๓ นางมณโฑเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง แม้ว่าทศกัณฑ์จะมีเมียกี่คน ทำในเรื่องที่ไม่ดีอื่นๆนางก็ไม่เคยปริปากว่าสามี เพราะในวรรณคดียุคนั้นเป็นที่สตรีต้องอยู่ภายใต้อำนาจของบุรุษ จากลักษณะนี้เองที่ทำให้นางมณโฑมีข้อดีขึ้นมา คือ ความกตัญญูและเชื่อฟังสามี
          ความรู้สึกของนางมณโฑที่ไม่เคยได้เรียกร้อง        
          นางมณโฑเป็นตัวประกอบหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ ที่บทบาทของนางเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ นางเป็นทั้งข้าผู้รับใช้ เป็นเมีย เป็นแม่ และเป็นพระแม่เมือง ชีวิตของนางคลุกเคล้าทั้งอารมณ์สุข ทุกข์ ปวดร้าว แปรเปลี่ยนไปตลอดเวลา  ชีวิตของนางมณโฑผู้ที่มีหัวใจเพียงหนึ่งให้ทศกัณฑ์ แต่ก็มีคู่ครองถึง 4 คน นั้นคือ ทศกัณฑ์ พาลี หนุมาน และพิเภก นางมณโฑต้องจำยอมตกเป็นเมียอย่างไม่เต็มใจ นางมณโฑกับทศกัณฑ์    อยู่กินกันจนมีบ่วงคล้องสายใยความรักคือการมีลูก หัวใจและความรู้สึกของนางเต็มไปด้วยความรักต่อสามีและลูก แต่เมื่อพาลีได้ชิงนางมณโฑมาจากทศกัณฑ์ได้ นางก็ต้องตกเป็นเมียของพาลี โดยที่นางไม่เคยมีสิทธิ์ได้เรียกร้องเลยว่าอยากจะเป็นเมียหรือไม่ ต่อจากนั้นนางมณโฑก็ได้กลับมาอยู่กับทศกัณฑ์อีกครั้ง จากในเรื่องนางมณโฑได้รำพึงรำพันโดยมีความตอนหนึ่งว่า “อกเอ๋ยเสียชาติเป็นสตรี จะมีคู่ครองถึงสองชาย” สะท้อนความรู้สึกของผู้หญิงที่เป็นเหมือนสิ่งของที่ถูกโยนไปมา โดยไม่เห็นว่าตนนั้นสำคัญ นางเป็นผู้ที่ทุ่มเทให้กับความรัก แต่ก็ต้องเจ็บปวดเพราะความรักเสมอมา เมื่อกล่าวถึงทศกัณฑ์ผู้ที่นางมณโฑรักมากที่สุด ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก นางก็ต้องเจ็บช้ำเพราะทศกัณฑ์ได้หลงรักนางสีดา ในเรื่องนางมณโฑไม่มีบทบาทใดๆ นางก็ยังรักและพร้อมที่จะให้อภัยได้เสมอ หากในเรื่องนางมณโฑได้มีบทบาทบ้าง ชายผู้ที่เข้ามาในชีวิตของนาง คงจะได้เข้าใจความรู้สึกของนางบ้างว่าจะต้องเจ็บช้ำและเจ็บปวดอย่างไรมี่ไม่มีสิทธิในการเรียกร้องอะไรได้เลย
          ด้านดีของนางมณโฑ
          นางมณโฑ มีความรักลูก รักสามี ไม่โกรธเคืองที่สามีหาผู้หญิงอื่นมาอยู่ด้วย และยังมีความกตัญญูต่อทศกัณฑ์เป็นอย่างมาก อย่างตอนที่หนุมานไปขอศรที่นางมณโฑ เพื่อจะใช้สังหารทศกัณฑ์ ถึงนางไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสามีและรู้สึกผิดที่สามีกระทำบาป แต่นางก็ยังยืนยันที่จะไม่ให้ศรแก่หนุมาน

ความคิดเห็นของผู้วิเคราะห์ในมุมมองสะท้อนสังคม
-          ทำไมสตรีต้องมีสามีคนเดียว?
ตอบ ใช่คนที่ดีนั้นจะต้องมีคู่รักเพียงคนเดียว แต่อย่างไรก็ตามเป็นไปได้หรือที่ทุกคนบนแผ่นดินนี้จะถูกครอบครอบหรือถูกรักจากบุรุษคนเดียวและไม่นอกใจหรือทอดทิ้งสตีเลย และสามารถตอบได้เลยว่า ไม่มีแน่นอน ฉะนั้นหากสตรีถูกทอดทิ้งให้เดียวดายเพียงลำพัง เธอจะต้องครองชีวิตอยู่คนเดียวเช่นนั้นหรือการมีคู่หลายคนนั้น บางครั้งเราไม่สามารถที่จะตอบได้เลยว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่ ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ตามที่ว่าสตรีก็มีสิทธิ์ที่จะหาความรักใหม่ เพื่อที่หาความสุขลบร้อยความทุกข์ได้เหมือนบุรุษเช่นกัน


วิเคราะห์โดย         1. นายธีระยุทธ  แสงทิพย์
                            2. นางสาวนิสารัตน์  คงจันทร์ 
                            3. นางสาวธันยพร  จิตต์อำนวย
                            4. นางสาวอมิตา  โกราเมศ

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วิเคราะห์เรื่องสั้น คล้ายว่าเริ่มจากฝน


คล้ายว่าเริ่มจากฝน

แนวคิดหรือสารัตถะของเรื่อง 
คล้ายว่าเริ่มจากฝน เป็นเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งที่นำเสนอเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการทำสงคราม การกู้ชาติระหว่างชนเผ่าในแถบชายแดนแผ่นดินไทย และเป็นเรื่องราวของเด็กชายสองคน ที่มีสัญชาติต่างกัน คนหนึ่งคือสัญชาติไทย อีกคนหนึ่งคือสัญชาติมอญ บ้านของทั้งสองอยู่ใกล้กัน และด้วยสาเหตุบางประการทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่สนิทกัน
เนื้อเรื่องนำเสนอในแง่ของการเมือง นั่นคือการทำสงครามกันระหว่างชายแดนของไทย ซึ่งเป็นชุมชนหนึ่งในแถบชายแดนที่มีผู้คนหลายสัญชาติรวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนไทย มอญ ฉาน ว้าและกะเหรี่ยง เป็นต้น ซึ่งจากภาพความทรงจำของคนในหมู่บ้านที่มีต่อชาวต่างด้าวในด้านลบ นั่นคือก่อนหน้านี้มีการยึดโรงพยาบาลและจำคนไข้เป็นตัวประกัน ทำให้เกิดอคติต่อชาวต่างด้าวทุกคนไม่เว้นแต่ ฮะตู เด็กชายจากสัญชาติมอญที่มาศึกษาเล่าเรียนกับคนไทย ก็กลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงเช่นกัน อันนำไปสู่ความไม่สงบสุขในสังคมชายแดน  ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเรื่องสั้น ปรากฏรายละเอียด ดังนี้
1) ความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการอคติทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์
ดังตัวอย่าง “นายคบกับไอ้เป๋เป็นเพื่อน คิดจะชักศึกเข้าบ้านละสิ”
จากคำพูดข้างต้น แสดงให้เห็นว่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ในด้านการทำสงครามชิงดินแดนกลับกลายเป็นภาพความทรงจำด้านลบหรือความอคติต่อชาวต่างด้าว ซึ่งทำให้มีผลต่อการใช้ชีวิตร่วมกันของคนในชุมชนนี้ และยังเป็นภาพของความรุนแรงในเชิงวัฒนธรรม ด้วยที่คนทั่วไปมองคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ใช่คน แต่เป็นคนร้ายหรือผู้ก่อการร้าย เมื่อมีคนที่ต้องการให้มีความเสมอภาคกันก็จะทำให้คนกลุ่มนั้นถูกกระทำความความรุนแรง โดยไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงว่า จะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่บุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นจะเป็นคนร้ายจริงๆ
2) ความรุนแรงจากการแปลกแยก เป็นการลดทอนสิทธิที่เกิดจากเงื่อนไขการทำงาน เชื้อชาติ เพศ การกีดกันทางสังคม การกดขี่ทางวัฒนธรรม และการอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว
ดังตัวอย่าง “กีฬาโปรด” ฮะตูยิ้ม “ที่โน้นมีสนามฟุตบอลด้วย พี่ชายเราเล่นเก่ง ถ้าเขาเป็นคนไทยก็อาจติดทีมชาติหรือถ้าเราได้แข่งขัน...” เขาทำหน้าสลด
จากตัวคำพูดข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการที่ ฮะตูและพี่ชายต้องมาอาศัยอยู่บนแผ่นดินที่ไม่ใช่ของตนเอง ทำให้ต้องโดนจำกัดอิสรภาพ ไม่สามารถทำตามที่ตนอยากทำได้หรือไม่สามารถหาความสุขเหมือนอย่างที่เด็กปกติควรจะได้รับ เช่น การเล่นฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขารักและชอบเป็นพิเศษ และด้วยความที่ว่าเขาเป็นแค่เด็กมอญที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กพม่า ทำให้โดนสังคมกีดกัน ไม่มีเพื่อนคนไหนชวนเขาเล่นฟุตบอลหรือทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกันกับเขาเลยสักคน



ความหมายเชิงโครงสร้างของ คล้ายว่าเริ่มจากฝน
          ผู้เขียนต้องการสื่อให้เห็นว่า ปัจจุบันคนในสังคมยังมีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรม ไม่สามัคคีกัน เป็นเหตุให้เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน สุดท้ายเป็นทางนำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด นอกเหนือจากนั้นผู้เขียนยังสื่อให้เห็นถึงความเป็นเพื่อนอีกด้วย ไม่จำเป็นว่า ต้องเป็นคนชาติเดียวกันหรือศาสนาเดียวกันไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างครบสมบูรณ์แบบทุกอย่าง แต่เพื่อนคือคนที่ทำให้สบายใจเวลามีปัญหาและอยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่ว่าเราจะทำไม่ดีกับเขาแค่ไหนเขาก็ยังรักและห่วงใยเราเสมอเพื่อนคือมิตรภาพและคอยแบ่งปันทุกข์ สุข ด้วยกัน
เรื่อง คล้ายว่าเริ่มจากฝน ผู้เขียนสื่อแนวความคิดหรือทัศนคติที่มีต่อสังคมมนุษย์  ผ่านทางบทสนทนาของตัวละคร และเป็นบทสนทนาที่ทำให้เรื่องมีความน่าสนใจเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครและเนื้อเรื่อง โดยผู้เขียนใช้บทสนทนาในเรื่องไม่มาก แต่มีความกระชับรัดกุม มีความเป็นธรรมชาติเหมือนข้อความที่คนทั่วไปใช้พูดกัน มีการเลือกสรรคำที่มีความหมายกับเนื้อเรื่องและช่วยในการดำเนินเรื่อง ตัวละครพูดจาโต้ตอบกัน ทำให้เรื่องมีชีวิตชีวามากขึ้น
ตัวละครที่สำคัญนั่นก็คือ ธง และ ฮะตู เด็กชายสองคนที่มีสัญชาติที่ต่างกัน จากที่ธงเคยกลั่นแกล้งฮะตูผู้มีขาเทียมอยู่ประจำ ก็กลับกลายเป็นว่าสงสารกับสภาพที่ฮะตูเป็น จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนร่วมทางจำเป็น พอได้เรียนรู้ รู้จักกันมากขึ้นก็กลายเป็นมิตรภาพน้อยๆที่เกิดภายในจิตใจของเด็กสองคนนี้ สุดท้ายก็เป็นมิตรภาพที่ดีให้แก่กัน เกิดความห่วงใยซึ่งกันและกัน
ดังตัวอย่างรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดภาคเรียน ธงถึงกลับนอนซมด้วยพิษไข้กว่าจะลุกได้ก็ผ่านไปอีกวัน ยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่บ้าง แต่อยากรู้ข่าวคราวของฮะตู จึงขี่จักรยานไปหา ลืมเรื่องที่พ่อเตือนจนหมดสิ้น..”
จากตัวอย่างข้างต้น แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ก่อเกิดแก่เด็กชายธง ด้วยความที่เป็นห่วงและปะปนไปด้วยความรู้สึกผิด จึงขี่จักรยานไปบ้านของฮะตู ทั้งๆที่ตนก็เป็นไข้ ไม่สบายอยู่ และยังลืมคำเตือนของพ่อ ว่าห้ามธงไปแถวบ้านของฮะตูอีก
และเนื้อเรื่องยังได้กล่าวถึงตัวละครอื่นๆอีก เช่น พ่อของธง พี่ชายธง พี่ชายฮะตู ครูน้ำฝน ครูใหญ่ เอก   และตัวละครที่ปรากฏชื่อแต่ไม่ปรากฏการกระทำ มีเพียงตัวละครอื่นในเรื่องกล่าวถึง  ได้แก่  พ่อของฮะตู ตำรวจ
เรื่อง “คล้ายว่าเริ่มจากฝน” ดำเนินเรื่องแบบลำดับเหตุการณ์จะเน้นความสำคัญ  และความสัมพันธ์ของลำดับเหตุการณ์พฤติกรรม  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การบุกยึดโรงพยาบาล และเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ คือตอนที่พม่าบุกยึดดินแดนประเทศไทยทำให้เกิดความเสีย สร้างความโกรธแค้นในกับชาวบ้านในชุมชน และยังมีสภาพความรู้สึกนึกคิดของตัวละครเป็นสำคัญใช้กลวิธีในการเปิดเรื่องโดยการใช้การบรรยายฉากและเหตุการณ์ของเรื่องอีกด้วย
หลังจากนั้นเรื่องราวทั้งหมดก็ถึงจุดพลิก อย่างคาดไม่ถึงพี่ชายของ  ฮะตูคือกลุ่มคนร้ายติดอาวุธที่เข้ายึดโรงเรียน ด้วยความรักเพื่อนฮะตูจึงยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องทุกคนถึงแม้ว่า เพื่อนในห้องจะไม่ยอมรับเขาเป็นเพื่อนก็ตามและในตอนจบผู้เขียนจบเรื่องแบบสื่ออารมณ์ของตัวละคร  ที่ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์เศร้าเข้มข้นสะเทือนใจในตอนจบเรื่อง

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

10 ประโยค/คำศัพท์ภาษาจีนที่ควรทราบ

10 ประโยค/คำศัพท์ภาษาจีนที่ควรทราบ
วันนี้ขอนำเสนอคำศัพท์ภาษาจีนค่ะ มีคำว่าอะไรบ้างไปดูกันเลย...

你好 หนี่ห่าว = สวัสดี
我叫.... หวอเจี้ยว = ฉันชื่อ....
你 หนี่ = คุณ
我 หวอ = ฉัน
你叫什么名字? หนี่เจี้ยวเฉินเมอหมิงจื่อ = คุณชื่ออะไร?
好不好 ห่าวปู้ห่าว = โอเคหรือเปล่า?
什么? เฉินเมอะ = อะไร?
很好 เหินห่าว = ดีมาก
晚安 ว่านอัน = ราตรีสวัสดิ์
你好吗? หนี่ห่าวมา? = สบายดีไหม?

หากผิดพลาดประการใด ก็ต้องขอคำแนะนำด้วยนะคะ  #ขอบคุณค่ะ 👋👋

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561

คำศัพ์ภาษาเกาหลีที่ควรทราบ

คำศัพ์ภาษาเกาหลีที่ควรทราบ

อันยองฮาเซโย!!! สวัสดีเพื่อนๆทั้งหลายนะคะ มีคำศัพท์ภาษาเกาหลีมาแนะนำค่ะ มีคำว่าอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

안녕 อันยอง = สวัสดี (ใช้ในกรณีที่สนิทกัน)
안녕하세요 อันยองฮาเซโย = สวัสดีค่ะ/ครับ
당신 ดังซิน = คุณ
나 นา = ฉัน
너 นอ = คุณ
제이름은.......입니다. เจอีรืมึน.......อิมนีดา = ฉันชื่อ........ค่ะ
저는 태국 사람입니다. จอนึนแทกุกซารัมอิมนีดา = ฉันเป็นคนไทย
태국 แทกุก = ประเทศไทย
한국 ฮันกุก = ประเทศเกาหลี
마음 มาอึม = หัวใจ
아버지 อาบอจี = พ่อ
아빠 อาปา = พ่อ
어머니 ออมอนี = แม่
언니 อนนี = พี่สาว
오빠 โอปา = พี่ชาย
사랑 ซารัง = รัก
어떻게 ออตอเค = อย่างไร
가지마 คาจีมา = อย่าไป

วิเคราะห์ความเป็นอื่นของตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ “นางมณโฑ”

วิเคราะห์ความเป็นอื่นของตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ “นางมณโฑ” ประวัติของตัวละคร “นางมณโฑ”           นางมณโฑคือใคร? ในหนังสือเรื่...