วิเคราะห์ความเป็นอื่นของตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์
“นางมณโฑ”
ประวัติของตัวละคร
“นางมณโฑ”
นางมณโฑคือใคร?
ในหนังสือเรื่องรามเกียรติ์ของเราและในหนังสือเรื่องบ่อเกิดของรามเกียรติ์กล่าวถึงประวัติของนางมณโฑไว้ว่า
พระฤษีสี่ตนบำเพ็ญพรตที่เขาหิมพานต์เป็นเวลาสามหมื่นปี โคนมห้าร้อยตัวอยู่ในป่า
มีใจเลื่อมใสในพระฤษี จึงพากันมาหยดน้ำนมลงไว้ในอ่างทุกเช้า
ถึงเวลาพระฤษีฉันแล้วก็ให้ทานนางกบตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ข้างอ่างนั้นบ้าง
วันหนึ่งนางนาคซึ่งเป็นธิดาของพระยากาลนาค ขึ้นมาสมจรกับงูดิน
พระฤษีทั้งสี่พบเข้าเห็นเป็นเสียเกียรติ์ยศนาคจึงเอาไม้เท้าเคาะให้รู้ตัว
ครั้งแรกก็เคาะตรงขนดหางแต่นางนาคหารู้สึกตัวไม่ ฤษีจึงเคาะอีกที คราวนี้
เคาะกรงกลางตัวทีเดียว นางนาคก็ตกใจมองไปเห็นฤษีก็นึกละอาย
ก็ชำแรกแผ่นดินหนีไปเมืองบาดาลแต่ก็เอาความอาฆาตไปด้วย จึงคิดจะฆ่าฤษี
จึงแอบไปที่อาศรมคายพิษลงในอ่างนํ้านม ฝ่ายนางกบเห็นเช่นนั้นก็กลัวว่าพระฤษีจะมรณะ
จึงโดดลงไปตายด้วยพิษนาคในอ่างนั้น ถึงเวลาฉัน พระฤษีเห็นกบตายก็ไม่กล้าฉันนม
จึงช่วยกันชุบให้กบคืนชีพ แล้วถามถึงเหตุที่นางกบลงไปตายในอ่างน้ำนม
เมื่อทราบเรื่องราวก็มีความกรุณาเลยชุบนางกบให้เป็นหญิงมนุษย์ให้ชื่อว่านางมณโฑ
ตามชาติเดิมที่มาจากกบ เพราะกบนั้นในภาบาลีเรียกว่า “มณฑก”
นางมณโฑนั้นสวยงามอย่างไร
ขนาดไหน เราลองฟังคำกลอนตอนนี้ดูก็ได้แล้วเลิกร้องเพลงนางมณโฑนมโตข้างเดียวเสียที
คำกลอนมีว่า
“งามพักตรยิ่งชั้นมหาราช งามวิลาสล้ำนางในดึงสา
งามเนตรยิ่งเนตรในยามา งามนาสิกล้ำในดุษฎี
งามโอษฐงามกรรณงามปราง ยิ่งนางในนิมาราสี
งามเกศยิ่งเกศกัลยาณี อันมีในชั้นนิรมิต
ทั้งหกห้องฟ้าไม่หาได้ ด้วยทรงลักษณ์วิไลไพจิตร
ใครเห็นเป็นที่เพ่งพิศ ทั้งไตรภพจบทิศไม่เทียมทัน”
เมื่อชุบนางมณโฑขึ้นมาแล้ว
พระฤษีทั้งสีก็เดือดร้อนอีก
เดือดร้อนในเรื่องที่อยู่ของนางมณโฑนั่นเองตอนเป็นกบอยู่ก็นอนข้างอ่างน้ำนมได้ไม่มีใครว่า
แต่ตอนเป็นหญิงสาวและสวยด้วยจะมาอยู่ไนอาศรมกับพระฤษีก็ดูกระไรอยู่
ฤษีก็กลัวคนนินทาเหมือนกัน จึงนำนางมณโฑไปถวายพระอิศวรไว้
พระอิศวรก็มอบนางมณโฑให้พระอุมาไว้ทรงใช้สอย นางมณโฑเป็นสาวชาววังและก็เป็นชาววังในสวรรค์ไม่ใช่วังธรรมดาบนพื้นดินเรียกว่าเป็นสาวสวรรค์ทีเดียว
ที่อยู่ของพระอิศวรนั้น
ว่าอยู่บนเขาไกรลาส วันหนึ่งวิรุฬหกขึ้นไปเฝ้าพระอิศวร
ขณะนั้นพระอิศวรกำลังบรรทมอยู่
วิรุฬหกเข้าใจว่าพระอิศวรกำลังเสด็จออกที่หน้ามุขพอขึ้นอัฒจันทร์
วิรุฬหกก็หมอบกราบและก็กราบทุกชั้นบรรได
ขณะนั้นมีตุ๊กแกตัวหนึ่งเห็นวิรุพหกขุนมารกราบบรรได ก็ร้องตุ๊กแกเป็นเชิงเยาะเย้ย
วิรุฬหกเหลือบไปเห็นตุ๊กแกก็เกิด โทสะ
ถอดสังวาลย์ขว้างไปถูกตุ๊กแกเคราะห์ร้ายถึงตาย
ขณะเดียวกันเพราะความแรงของสังวาลย์ที่ขว้างไปเป็นเหตุให้เขาพระสุเมรุเอนไปด้วย
ก็เขาพระสุเมรนั้นพระอิศวรเป็นเจ้าสถิตย์อยู่
พอเขาพระสุเมรเอนเอียงก็เดือดร้อนต้องประกาศหาผู้สมัครยกเขาให้ตรง ทำไมพระอิศวร
ซึ่งสามารถบันดาลทุกสิ่งได้ จึงไม่ทรงทำให้เขาตรงเสียเองก็ไม่ทราบ
คราวนั้นทศกัณฑ์อาสายกเขาให้ตรงได้มีความชอบ พระอิศวรจึงประทานพรว่าจะขออะไรก็ได้
ทศกัณฑ์ได้ทีก็ทูลขอพระอุมาชายาพระอิศวรๆ
ก็ไม่ขัดแต่พอทศกัณฑ์จะอุ้มพระอุมาก็ร้อนเหมือนไฟ จึงต้องทูน พระอุพาไป
จนสุดท้ายพระอิศวรออกอุบายจนทศกัณฑ์ต้องนำพระอุมาคืนและขอเปลี่ยนกับนางมณโฑเทวี
พระอิศวรก็ทรงอนุญาตประทานนางมณโฑให้ ตอนทศกัณฑ์พานางมณโฑเหาะ จะไปกรุงลงกา
แต่ทางอากาศที่ทศกัณฑ์ผ่านไปนั้นบังเอิญผ่านนครขีดขินของพาลี ฝ่ายพาลี
เห็นทศกัณฑ์อุ้มสตรีเหาะข้ามเมืองตนก็โกรธ
จึงคว้าอาวุธได้เหาะขึ้นไปรบกับทศกัณฐ์แล้วชิงเอานางมณโฑไปได้
นางมณโฑตกเป็นเมียของพาลีเป็นคนแรก พอตั้งท้อง อาจารย์ของพาลีไปว่ากล่าวให้คืนนางมณโฑแก่ทศกัณฐ์เสีย
พาลีก็ยอมคืนแต่ขอเอาลูกไว้
ตอนนั้นลูกก็ยังไม่ครบกำหนดคลอดจึงต้องผ่าเอาลูกใส่ท้องแพะไว้ก่อน
ลูกของทางมณโฑซึ่งเกิดจากทศกัณฐ์นี้คือองคต
ซึ่งเป็นราชทูตถือสารของพระรามไปให้ทศกัณฐ์นั้นเอง นางมณโฑมีบุตรกับทศกัณฐ์อีก ๓
คน คืออินทรชิต นางสีดา และไพนาสุริยวงศ์
เมื่อเสร็จศึกลงกาแล้ว
พระรามอภิเษกให้พิเภก ซึ่งมีความชอบในราชการเป็นพระเจ้ากรุงลงกาแทนทศกัณฐ์พี่ชาย
ให้นางตรีชฎาเป็นมเหสีฝ่ายขวา นางมณโฑเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย
ลักษณะของนางมณโฑ
นางมณโฑนั้น
จะว่ามีบุญวาสนาก็นับว่ามีบุญวาสนาอยู่เพราะได้รับความเมตตาจากฤษีชุบจากกบมาเป็นสาวสวยและไปอยู่ในสวรรค์
กลายเป็นสาวสวรรค์ แต่จะว่ามีกรรมก็มีกรรม หรือตามความเห็นของคนบางคนก็ว่ามีบุญก็ได้
เพราะมีสามีถึง ๔ แต่ตอนบั้นปลายรู้สึกจะตกอับนิดหน่อย
คือตกจากฝ่ายขวาเป็นเอกอัครมเหสี มาเป็นฝ่ายซ้ายคือเป็นรอง
ลักษณะของนางมณโฑคือ สีขาว ๑ หน้า ๒ มือ มงกุฎนาง และมีสวามี โอรส และธิดา นางมณโฑเทวีเป็นมเหสีองค์ที่ ๑ ของท้าวทศกัณฐ์ มีบุตร
๓ คือ อินทรชิต ยุพราชกรุงลงกา นางสีดา มเหสีของพระราม
และทศพิน(ไพนาสุริยวงศ์) กษัตริย์กรุงลงกาองค์ที่ ๕
สามีของนางมณโฑ
สามีของนางมณโฑนี้บางตำราก็กล่าวว่ามี
๖ ตน แต่บางตำราก็กล่าวไว้ว่ามี ๔ ตน แต่ ณ
ที่นี้จะขอนำเสนอสามีของนางมณโฑที่ปรากฎอย่างแน่ชัดเพียง ๔ ตน ดังนี้
๑. ทศกัณฑ์
เมื่อทศกัณฑ์ได้ความดีความชอบจากการช่วยทำให้เขาไกรลาสกลับมาตั้งตรงอีกครั้งจึง
ได้ทูลขอพระแม่อุมาเป็นบำเหน็จในความดีความชอบครั้งนี้
แต่ความ “ทะลึ่ง”
ของทศกัณฑ์ก็ได้ทำให้ตัวเขาและเหล่าเทพเจ้าเทวดาทั้งหลายเดือดร้อนไปตามๆ กัน
จนกระทั่งพระนารายณ์ต้องออกอุบายให้ทศกัณฑ์นำพระแม่อุมาไปคืนและเปลี่ยนเป็นสาวงามคนอื่นแทน
สุดท้ายก็ได้นางมณโฑมาแทนพระแม่อุมา…
๒. พาลี
ระหว่างที่ทศกัณฑ์อุ้มนางมณโฑกลับกรุงลงกา
พาลีซึ่งเป็นลิงที่ครองเมืองขีดขินเห็นทศกัณฑ์
อุ้มนางมณโฑเหาะข้ามเมืองของตนก็เกิดความไม่พอใจและตรงเข้าทำร้ายทศกัณฑ์
พาลีได้พรศักดิ์สิทธิ์ว่าหากสู้รบกับผู้ใดก็ให้พละกำลังของคู่ต่อสู้มาเป็นกำลังของตนเอง
หลังจากสู้รบชัยชนะก็ตกเป็นของพาลี
เมื่อนั้นเองพาลีก็เกิดพึงพอใจในความงามของนางมณโฑจึงได้ชิงนางมณโฑไว้เป็นเมียของตน
ณ เมืองขีดขิน
๓. หนุมาน
ในการรบกับพระรามนั้น ในช่วงท้ายๆ
ทศกัณฑ์เป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำทำท่าจะแพ้อยู่
หลายหน
นางมณโฑเองก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยผัวรบด้วยเช่นกัน
ดังในตอนที่นางมณโฑพยายามจะตั้งพิธีหุงน้ำทิพย์ที่ตนได้เรียนมาจากพระแม่อุมาเพื่อช่วยผัวในการรบ
แต่ในพิธีหุงน้ำทิพย์นี้มีข้อแม้ที่สำคัญอยู่ประการหนึ่งว่าจะต้องงดเว้นการร่วมรักกัน
นางมณโฑจึงขอให้ทศกัณฑ์อดทนรอจนพิธีเสร็จฝ่ายพระรามเมื่อรู้ว่านางมณโฑกำลังตั้งพิธีหุงน้ำทิพย์
หนุมานทหารเอกของพระรามก็ได้คิดอุบายเพื่อทำลายพิธีนี้เสียด้วยการปลอมตัวเป็นทศกัณฑ์หลอกนางมณโฑว่าชนะศึกพระรามแล้วกลับมาร่วมรักกับนางมณโฑ
ผลก็คือพิธีหุงน้ำทิพย์ถูกทำลายเพราะละเมิดเงื่อนไขที่ว่าด้วยการร่วมรัก
๔. พิเพก
หลังทศกัณฐ์ถูกฆ่า พระรามยกกรุงลงกาให้พิเภกก็ยกนางมณโฑโสภาให้เป็นเมียพิเภก
ตามลำดับไหล่
พิเภกเป็นอันดับที่สี่
ความเป็นอื่นของตัวละคร
“นางมณโฑ”
นางมณโฑผู้ไม่เคยมีสิทธิ์เรียกร้อง
ชีวิตของนางมณโฑนั้นอยู่ในสภาวะที่เลือกอะไรไม่ได้สักอย่าง
จะมีผัวก็เลือกไม่ได้ มีผัว ๔ คน ตายไป ๒
และผัวทั้งหมดนั้นก็ต้องเป็นเมียเขาอย่างจำยอม ราวกับถูกข่มขืนก็ไม่ปาน… มีลูก
ลูกก็ต้องตายเพราะความหน้ามืดของพ่อ หรือไม่ลูกก็เป็นภัยกับตัวพ่อจนถึงแก่ชีวิต
ตอนจบยังต้องตกเป็นของน้องผัวอย่างพิเภก
นางมณโฑสะท้อนสังคม
๑. ในสมัยโบราณเมื่อไม่นานมานี้
(ร.๔) มีผู้เอาความที่นางมณโฑมีผัวหลายคนมาเสียดสีผู้หญิงที่ชอบ
เปลี่ยนผัวว่า
“นางมณโฑโสภาหกสามี สองกระบี่สี่ยักษ์รักระดม”
(เพลงยาวกรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์)สมัยนี้ถือเป็นการเหยียดเพศหญิง...ทั้งที่ความจริงหญิงนั้นเป็นฝ่ายถูกกระทำย่ำยีข้างเดียว
๒. เรื่องราวของรามเกียรติ์
ในบทของนางมณโฑเป็นเรื่องราวที่สะท้อนสังคมในบทบาทของสิทธิสตรี
เป็นอย่างมาก
๒.๑ ในเรื่องรามเกียรติ์ได้ทำให้ตัวละครนางมณโฑเป็นตัวละครที่ไม่ดีโดยการให้นางมณโฑทีสามีถึง
๔ ตน ซึ่งเป็นลักษณะของสตรีที่ไม่ดีในยุคนั้น
๒.๒ แม้ว่านางมณโฑจะมีพื้นเพเป็นชนพื้นเมือง
แต่นางก็เข้ามาอยู่ในสังคมเจ้า
ต้องสละลูกของตนเองให้อยู่ในการครอบครองของสามีอย่างเลี่ยงไม่ได้
ลูกที่เกิดจากนางจึงไม่ได้เป็นสมบัตินาง
หากแต่ตกเป็นสมบัติของผู้ชายทั้งพาลีและทศกัณฐ์
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความจำเป็นว่าลูกของนางจะเกิดออกมาจากท้องแพะหรือท้องนางเอง
อีกทั้งการทำคลอดและการตั้งครรภ์
อันเป็นปริมณฑลเฉพาะของผู้หญิงและหวงห้ามสำหรับผู้ชายอีกทั้งยังเป็นองค์ความรู้ของผู้หญิงที่ถ่ายทอดกันในกลุ่มผู้หญิง
การที่ฤๅษีกับทศกัณฐ์
พยายามเอาลูกในครรภ์นางใส่ไว้ในท้องแพะจึงเป็นการแสดงอำนาจเพศชายผ่านทางรัฐและสถาบันศาสนาเพื่อที่จะเข้ามารุกล้ำพื้นที่เฉพาะของผู้หญิงที่ผู้หญิงสามารถสร้างอำนาจได้ด้วยตนเอง
เป็นการช่วงชิงอำนาจของผู้ชายไปจากผู้หญิงโดยผู้ชายชนชั้นปกครองและชนชั้นนักบวชแต่อย่างไรก็ตามนางมณโฑเองก็ยังมีบทบาทในด้านพิธีกรรมทางศาสนาเช่นกันซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เฉพาะของนางที่ผู้ชายไม่สามารถเข้ามารุกล้ำได้
คือ นางสามารถประกอบพิธีหุงน้ำทิพย์ ที่ปลุกชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ได้
(ขณะที่สีดาแทบจะไม่ทำอะไรนอกจากรอสวามีมารับกลับวัง)
ซึ่งแตกต่างจากความเชื่อของอารยันในคัมภีร์พระเวทที่ผู้หญิงไม่สามารถประกอบพิธีกรรมใดได้หากปราศจากผู้ชาย
หนำซ้ำการที่มีผู้ชายเข้ามาใกล้นางมณโฑระหว่างทำพิธีเป็นการก่อกวนในการประกอบพิธีกรรม
ถือได้ว่าเป็นพื้นที่การสร้างอำนาจของผู้หญิงจริงๆ
ซึ่งเป็นเหตุให้ทหารลิงของรามทำลายพิธีหุงน้ำทิพย์ของนางได้สำเร็จและปราบไพร่พลยักษ์ตายเป็นจำนวนมาก
๒.๓ นางมณโฑเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง
แม้ว่าทศกัณฑ์จะมีเมียกี่คน ทำในเรื่องที่ไม่ดีอื่นๆนางก็ไม่เคยปริปากว่าสามี
เพราะในวรรณคดียุคนั้นเป็นที่สตรีต้องอยู่ภายใต้อำนาจของบุรุษ
จากลักษณะนี้เองที่ทำให้นางมณโฑมีข้อดีขึ้นมา คือ ความกตัญญูและเชื่อฟังสามี
ความรู้สึกของนางมณโฑที่ไม่เคยได้เรียกร้อง
นางมณโฑเป็นตัวประกอบหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์
ที่บทบาทของนางเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ นางเป็นทั้งข้าผู้รับใช้ เป็นเมีย
เป็นแม่ และเป็นพระแม่เมือง ชีวิตของนางคลุกเคล้าทั้งอารมณ์สุข ทุกข์ ปวดร้าว
แปรเปลี่ยนไปตลอดเวลา ชีวิตของนางมณโฑผู้ที่มีหัวใจเพียงหนึ่งให้ทศกัณฑ์
แต่ก็มีคู่ครองถึง 4 คน นั้นคือ ทศกัณฑ์ พาลี หนุมาน และพิเภก
นางมณโฑต้องจำยอมตกเป็นเมียอย่างไม่เต็มใจ นางมณโฑกับทศกัณฑ์ อยู่กินกันจนมีบ่วงคล้องสายใยความรักคือการมีลูก
หัวใจและความรู้สึกของนางเต็มไปด้วยความรักต่อสามีและลูก แต่เมื่อพาลีได้ชิงนางมณโฑมาจากทศกัณฑ์ได้
นางก็ต้องตกเป็นเมียของพาลี
โดยที่นางไม่เคยมีสิทธิ์ได้เรียกร้องเลยว่าอยากจะเป็นเมียหรือไม่
ต่อจากนั้นนางมณโฑก็ได้กลับมาอยู่กับทศกัณฑ์อีกครั้ง
จากในเรื่องนางมณโฑได้รำพึงรำพันโดยมีความตอนหนึ่งว่า “อกเอ๋ยเสียชาติเป็นสตรี
จะมีคู่ครองถึงสองชาย”
สะท้อนความรู้สึกของผู้หญิงที่เป็นเหมือนสิ่งของที่ถูกโยนไปมา
โดยไม่เห็นว่าตนนั้นสำคัญ นางเป็นผู้ที่ทุ่มเทให้กับความรัก
แต่ก็ต้องเจ็บปวดเพราะความรักเสมอมา
เมื่อกล่าวถึงทศกัณฑ์ผู้ที่นางมณโฑรักมากที่สุด ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก นางก็ต้องเจ็บช้ำเพราะทศกัณฑ์ได้หลงรักนางสีดา
ในเรื่องนางมณโฑไม่มีบทบาทใดๆ นางก็ยังรักและพร้อมที่จะให้อภัยได้เสมอ
หากในเรื่องนางมณโฑได้มีบทบาทบ้าง ชายผู้ที่เข้ามาในชีวิตของนาง
คงจะได้เข้าใจความรู้สึกของนางบ้างว่าจะต้องเจ็บช้ำและเจ็บปวดอย่างไรมี่ไม่มีสิทธิในการเรียกร้องอะไรได้เลย
ด้านดีของนางมณโฑ
นางมณโฑ
มีความรักลูก รักสามี ไม่โกรธเคืองที่สามีหาผู้หญิงอื่นมาอยู่ด้วย
และยังมีความกตัญญูต่อทศกัณฑ์เป็นอย่างมาก อย่างตอนที่หนุมานไปขอศรที่นางมณโฑ
เพื่อจะใช้สังหารทศกัณฑ์ ถึงนางไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสามีและรู้สึกผิดที่สามีกระทำบาป
แต่นางก็ยังยืนยันที่จะไม่ให้ศรแก่หนุมาน
ความคิดเห็นของผู้วิเคราะห์ในมุมมองสะท้อนสังคม
-
ทำไมสตรีต้องมีสามีคนเดียว?
ตอบ
ใช่คนที่ดีนั้นจะต้องมีคู่รักเพียงคนเดียว แต่อย่างไรก็ตามเป็นไปได้หรือที่ทุกคนบนแผ่นดินนี้จะถูกครอบครอบหรือถูกรักจากบุรุษคนเดียวและไม่นอกใจหรือทอดทิ้งสตีเลย
และสามารถตอบได้เลยว่า ไม่มีแน่นอน ฉะนั้นหากสตรีถูกทอดทิ้งให้เดียวดายเพียงลำพัง
เธอจะต้องครองชีวิตอยู่คนเดียวเช่นนั้นหรือการมีคู่หลายคนนั้น บางครั้งเราไม่สามารถที่จะตอบได้เลยว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่
ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ตามที่ว่าสตรีก็มีสิทธิ์ที่จะหาความรักใหม่
เพื่อที่หาความสุขลบร้อยความทุกข์ได้เหมือนบุรุษเช่นกัน
วิเคราะห์โดย 1. นายธีระยุทธ แสงทิพย์
2. นางสาวนิสารัตน์ คงจันทร์
3. นางสาวธันยพร จิตต์อำนวย
4. นางสาวอมิตา โกราเมศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น